Accessibility Tools

สำนักประธานศาลฎีกา
Office of the President of the Supreme Court
ข่าวสารและกิจกรรม
image

สำนักประธานศาลฎีกา

การประชุมคณะทำงานเสริมสร้างความเข้าใจในการครองตนและครองงาน ครั้งที่ 1/2567image

        เมื่อวันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุม 409 ชั้น 4 อาคารศาลฎีกา นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค 7 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานเสริมสร้างความเข้าใจในการครองตนและครองงาน ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายอธิคม อินทุภูติ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา นายสาคร ตั้งวรรณวิบูลย์ ข้าราชการตุลาการ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน นางสุภาพ ศิริกังวาลกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 8 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งเลขาธิการประธานศาลฎีกา นางสาวฉันทนา เจริญศักดิ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองเลขาธิการประธานศาลฎีกา และคณะทำงานเสริมสร้างความเข้าใจในการครองตนและครองงานเข้าร่วมประชุม

       ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาถึงรูปแบบการดำเนินการในการขับเคลื่อนนโยบายประธานศาลฎีกา “ส่งต่ออย่างยั่งยืน” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้แก่ประชาชนโดยการปฏิบัติหน้าที่และดำรงตนอย่างสง่างามตามประมวลจริยธรรม รวมถึงกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมเห็นควรให้ดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในการครองตนและครองงานตามแนวทาง ดังนี้ 1. จัดทำคำอธิบาย และรวบรวมกรณีตัวอย่างในการครองตนและครองงานที่เหมาะสม 2. จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Infographic  หนังสือเวียน  วีดิทัศน์   3. ประสานงานกับสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมเพื่อให้มีการจัดฝึกอบรมในหัวข้อเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม ที่ต้องการเน้นย้ำ และ 4. กราบเรียนเสนอประธานศาลฎีกาเพื่อโปรดพิจารณาออกคำแนะนำประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับการครองตนและครองงานในกรณีที่เป็นเรื่องเร่งด่วน

       ทั้งนี้  คณะทำงานฯ มีหน้าที่สร้างความเข้าใจและส่งเสริมให้มีการครองตนและครองงานอย่างสง่างามตามหลักคิด “ยึดมั่นในหน้าที่ ตามวิถีตุลาการ”  เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกร้องเรียน และป้องกัน มิให้เกิดการกระทำผิดวินัยของบุคลากรศาลยุติธรรม โดยมีเป้าหมายสำคัญ  คือ  เพื่อให้บุคลากรศาลยุติธรรมทำงานอย่างมีความสุข  ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้แก่ประชาชนและสังคม